7 ขั้นตอนก่อนซื้อบรรทุกมือสอง

7 ขั้นตอนก่อนซื้อบรรทุกมือสอง

7 ขั้นตอนก่อนซื้อบรรทุกมือสอง
เป็นขั้นพื้นฐานที่พี่ๆน้องๆทุกคนห้ามละเลยกันนะคะ เป็นความรู้เบื้องต้นไว้ดีที่สุดค่ะ มี 7ขั้นตอน ดังนี้

1.เช็คราคารถ

-อันดับแรกสำหรับคนที่สนใจที่จะซื้อรถบรรทุกมือสองต้องรู้ก่อนนะครับว่าต้องเลือกรถประเภทใดให้เหมาะกับประเภทงาน เช่น รถดั้ม รถคอก รถหางเรียบ ตู้สิบบาน เป็นต้น โดยควรเปรียบเทียบหลายๆรุ่นเพื่อไว้เปรียบเทียบราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่คุณตั้งไว้

2.เช็คประวัติรถ

ซึ่งจำเป็นต้องรู้ประวัติที่ไปที่มาของรถที่คุณจะซื้อ ว่าคนคันนี้เป็นรถประเภทอะไรมาก่อนและควรเช็คว่ามีการเปลี่ยนหัวใหม่ หรือเครื่องยนต์ใหม่ ลงเล่มทะเบียนแล้วหรือยัง ซึ่งข้อมูลต่างๆท่านสามารถเช็คได้ด้วยตัวเองจากเล่มทะเบียน และควรตรวจเช็คอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น เครน  ตู้ ตัวล็อคหาง ลมต่อหาง หรือว่าในส่วนต่างๆของรถบรรทุกควรจะทดสอบก่อนที่ท่านจะซื้อรถบรรทุกแต่ละครั้ง

3.คัสซี

-คัสซีสามารถมองได้หลากหลายเช่น ถ้าเลขคัสซีมีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข จะก่อให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง และควรเช็คตัวถังให้ดีว่าตัวถังได้มีการการดัดแปลงหรือมีร่องรอยของการชนหนักหรือไม่ และคัสซีจะต้องไม่มีสนิมและไม่มีรอยการบิด อาจจะจะทำให้ส่งผลในอนาคต

4.เครื่องยนต์และระบบเกียร์

วิธีการตรวจเช็คเรื่องของเครื่องยนต์ประกอบไปด้วย2ขั้นตอนดังนี้

-ขั้นตอนที่ 1 เราควรสตาร์รถเพื่อฟังเสียงเครื่องยนต์ว่ามีเสียงที่ดังผิดปกติหรือไม่และถ้าหากว่าเสียงเครื่องยนต์ปกติเดินเรียบดีแสดงว่าเครื่องยนต์ดีและเครื่องยนต์จะต้องไม่มีคาบน้ำมันเยิ้มและสายพานะต้องอยู่ในระดับที่ปกติจะต้องไม่ตึงและไม่หย่อนเกินไป

-ขั้นตอนที่ 2 ถ้าหากสตาร์รถแล้วมีควันออกมากจากท่อมากกว่าปกติ โดยเราจะสังเกตจากควันว่าเป็นสีอะไร ถ้าหากเป็นควันสีขาว แสดงว่าเครื่องยนมีปัญหาอาจจะเกิดจากเครื่องยนต์หลวม ถ้าหากควันเป็นสีดำแสดงว่าเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์มีปัญหา

สัญญาณเกียร์ที่ไม่ดีเราจะแบ่งออกเป็น 5 อาการ

1.เกียร์ไม่เข้าตามตำแหน่ง     2.น้ำมันเกียร์รั่ว      3.คลัทช์ติด             4.เกียร์ลื่น               5.กลิ่นไหม้จากเกียร์

5.เช็คอุปกรณ์ที่ต้องบำรุงซ่อมแซม

-ประกอบไปด้วย หม้อน้ำ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย น้ำมันเบรก ระบบไฟต่างๆ แบตเตอร์รี่ว่ามีสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ จะต้องไม่มะเขมา หรือน้ำปะปนอยู่ในระบบน้ำมันต่างๆ รวมถึงการเช็คระบบช่วงล่างเช่น เพลาล้อ ล้อยาง

6.ยาง

-ที่ติดกับรถบรรทุกควรดูหน้ายางว่ายังมีดอกหนาอยู่ไหมและไม่มีร่องลอยการฉีกขาด และร่องลอยของการบวม และเนื้อยางยังนิ่มไหม และสุดท้ายดูปีที่ผลิตว่าเกินอายุใช้งาน 

7.ภายใน

-หลักๆของภายในคงหนีไม่พ้นตัวไมล์เพราะไมล์ เพราะ การซื้อรถบรรทุกมือสองจะบอกอะไรให้กับคนซื้อได้ เช่น จะบ่งบอกของในเรื่องระยะทางรถคันนั้นในการใช้งาน และ จะบ่งบอกถึงว่ามีสิ่งใดที่ทำงานผิดปกติในรถ เช่น แบตเตอรี่ น้ำมันเครื่อง เครื่องยนต์ และสิ่งที่สำคัญคืออุปกรณ์ภายในรถทุกอย่างยังใช้ปกติไหมและพวกมาลัยทำงานปกติไหม และแอร์ยังใช้งานได้ปกติไหม
 

สรุป แน่นอนถ้าเครื่องยนต์มีปัญหาแบบนี้ ท่านจะเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงแน่นอน คุณจะต้องเสียเงินตั้งแต่ยังไม่ได้เอารถไปใช้งานเลย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้